วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

ทำไมรถส่งแก๊สต้องเก่า? ควันเยอะ?

ทำไมรถส่งแก๊สต้องเก่า? ควันเยอะ?

แก๊สหุงต้ม การเลือกซื้อ วิธีใช้


          ภาพชินตาของชาวบ้าน ร้านตลาด คือมอเตอร์ไซค์ส่งแก๊ส ควันโขมง มีถังแก๊สซ้อนกันเต็มตะแกรงท้าย  ขับขี่ลดเลี้ยวไปตามตรอกซอกซอย  และบนถนนที่มีการจราจรคับคั่ง  แต่ม้าเร็วส่งแก๊สเหล่านี้ก็ขี่ฝ่าไปได้ เหมือนวิ่งบนทางโล่ง

         ทั้งเสียงดังของเครื่อง และควันจากท่อ ก็ประมาณอายุการใช้งานได้ว่าใช้มานานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่ปลดระวาง

         ทำเอาหลายคนสงสัยว่า เหตุใดร้านแก๊สจึงมักใช้รถประเภทนี้ ขนส่งถังแก๊สที่ดูแล้วไม่น่าจะมีความปลอดภัยเพียงพอ  อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ขับขี่เอง และผู้ใช้ถนนท่านอื่นๆ หากมีอุบัติเหตุขึ้น ระหว่างการส่งแก๊ส
         ด้วยน้ำหนักของถังแก๊สหากบรรจุเต็มก็จะมีน้ำหนักประมาณ31กก(ถังทั่วไปขนาด15 กก.) แล้วโดยมาก มักจะพบว่ามอเตอร์ไซค์ส่งแก๊สนี้บรรทุกมาไม่ต่ำกว่า 3ถัง ต่อหนึ่งเที่ยว เท่ากับว่าน้ำหนักบรรทุกรวมคนขี่ก็ตก ร้อยกิโลกว่าๆ เมื่อเป็นเช่นนี้การบังคับรถ หรือการเบรค หยุดรถก็ไม่สามารถทำได้ แม่นยำร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งมีโอกาสพลาดสูงมาก
         ทั้งนี้ก็คงจะเป็นเพราะร้านค้าแก๊ส ต้องการที่จะลดต้นทุนการขนส่ง โดยในหนึ่งเที่ยวจะต้องบรรทุกถังแก๊สขึ้นไปให้มากที่สุด  เพื่อประหยัดน้ำมัน แต่นั่น ก็เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นด้วย

ซึ่งผู้ที่ต้องแบกรับความเสี่ยงนั้นก็คือ พนักงานส่งแก๊ส และ ผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป


พาหนะที่ร้านแก๊สนิยมใช้ขนส่งแก๊สให้ลูกค้า

Kawasaki GTO

 อันดับ 1 GTO

ชื่อเต็มๆก็คือ จักรยานยนต์ Kawasaki GTO เป็นโมเดลที่ผลิตออกจำหน่ายในท้องตลาดบ้านเรามากว่า 20 ปีแล้ว ชนิดเครื่องยนต์เป็นเบนซิน 2 จังหวะ เนื่องจากรถรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีแรงบิดดี มากกว่าที่จะเน้นให้มีความเร็ว จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์เรื่องของการบรรทุกของหนักได้ดี โครงสร้างแข็งแรง เครื่องยนต์ทนทาน จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับงานหนักอย่างการบรรทุกแก๊ส อีกทั้งราคาก็ไม่แพง จึงเป็นรถจักรยานยนต์ยอดนิยมตลอดกาลของร้านแก๊สเมืองไทย
ซาเล้งแบบมีเครื่องยนต์

 อันดับ 2 ซาเล้ง

หรือสามล้อ จะเป็นแบบขับตรงกลาง หรือพ่วงข้างก็ได้ ร้านแก๊สก็นิยมเหมือนกัน แม้จะไม่ปราดเปรียว
ว่องไวเหมือน GTO แต่ก็มีดีที่บรรทุกถังแก๊สไปส่งได้คราวละมากๆ อาจจะได้ถึง 6 ถัง และยิ่งเหมาะ
ที่จะขนส่งถังขนาดใหญ่ 48 กก.จะมีข้อด้อยก็คือไปแในทางแคบ และทางที่รถติดมากๆก็ไม่ดี


 อันดับ 3 มอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ

ปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ในตลาดบ้านเรามุ่งทำแบบ 4 จังหวะเป็นหลัก เพราะมีมลพิษน้อยกว่า ทั้งยังกินน้ำมันน้อยกว่าแบบ 2จังหวะ  ติดอยู่แค่ตรงว่าแบบที่ทำออกมาจะเป็นแบบครอบครัว หรือแบบผู้หญิงใช้มากกว่า การนำมาดัดแปลงเป็นรถส่งแก๊สก็ทำได้ แต่อาจไม่แข็งแรงบึกบึนเหมือนแบบรถผู้ชายเช่น GTO ก็พอใช้ได้ ในเรื่องการประหยัด ซ่อมบำรุงง่าย

อันดับ 4 รถบรรทุกเล็ก

คือรถบรรทุกสี่ล้อเล็ก ที่มักเรียกกันว่ารถกะป้อ หรือรถซูบารุ(จริงๆแล้วไม่ใช่ยี่ห้อซูบารุ แต่เป็นยี่ห้อไดฮัทสุ และซูซูกิ)
นิยมใช้วิ่งส่งแก๊สกันพอสมควร เพราะบรรทุกได้มาก นับสิบถัง

 อันดับ 5 รถกระบะ

รถปิคอัพ ทั่วๆไป มีมาใช้ส่งแก๊สให้ลูกค้าที่เป็นประเภทองค์กร หรือร้านอาหารที่ใช้แก๊สมากๆ

เหตุผลสำคัญที่ร้านแก๊สจะเลือกใช้พาหนะใดไปส่งแก๊สให้ลูกค้า

1 ความสะดวก
2 ความประหยัด
3 ความรวดเร็ว


          รู้แล้วก็น่าตกใจ เพราะไม่มีเรื่องความปลอดภัยอยู่ใน List เลย ร้านแก๊สทั่วไปจึงเลือกใช้มอเตอร์ไซค์บรรทุกถังแก๊สส่งให้ลูกค้า และต้องบรรทุกให้มากๆเพื่อความคุ้มค่า การซ่อมบำรุงให้มีสภาพดีก็มีอย่างไม่บ่อยนัก เพราะการทำงานที่ต่อเนื่องไม่มีการหยุดให้บริการ ส่งผลให้มอเตอร์ไซค์ส่งแก๊สส่วนใหญ่ มีสภาพน่าหวั่นเกรง จะเกิดเรื่องหวาดเสียวได้ทุกเมื่อ

        การที่ค่าน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเรื่องมารตฐานความปลอดภัยของการขนส่งแก๊ส

Lpg transfered vehicle in thailand

      เพราะร้านแก๊สก็พยายามปรับลดต้นทุนในทุกด้าน เพื่อสู้กับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ของค่าพลังงาน ค่าแรง ค่าใช้จ่ายจิปาถะ

การที่เราจะหวังว่า ทางร้านจะเห็นแก่ความปลอดภัยเป็นสำคัญ

คงจะยังห่างไกลอยู่ 

 แต่นั่นก็ต้องเป็นสิ่งที่เราต้องมุ่งไป เพื่อความปลอดภัยของสังคมร่วมกัน

  ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

daihatsu